หัวหน้าคณะรัฐประหารไนเจอร์ ลั่นไม่ลงจากอำนาจ

สำนักประธานาธิบดีสาธารณรัฐมาลีได้เผยแพร่ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่าอัสซิมี กอยตา ประธานาธิบดีเพื่อการเปลี่ยนผ่านประเทศของมาลี ได้หารือร่วมกับโมดี ซาลิฟู รองประธานสภาแห่งชาติเพื่อปกป้องปิตุภูมิและคณะผู้แทนไนเจอร์ ถึงสถานการณ์ความตึงเครียดภายในประเทศหลังการยึดอำนาจทางการมาลีระบุว่า ตัวแทนคณะรัฐประหารไนเจอร์ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลมาลีที่ให้การสนับสนุนกับสิ่งที่เกิดขึ้นและการปรึกษาหารือทางการเมืองรอบนี้ เน้นไปที่ประเด็นความมั่นคงและการรักษาผลประโยชน์ของประชาชนชาวไนเจอร์เป็นสำคัญ

ชาติแอฟริกาตะวันตกขู่ใช้กำลัง หากรัฐบาลทหารไนเจอร์ไม่คืนอำนาจให้ปธน.

ม็อบหนุนรัฐประหารไนเจอร์ บุกเผาทำลายที่ทำการพรรครัฐบาล

การเดินทางเยือนมาลีครั้งนี้ มีขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวความเป็นไปได้ที่คณะรัฐประหารไนเจอร์อาจใช้กลุ่มนักรบรับจ้างแวกเนอร์ในมาลี เข้ามาแทรกแซงสถานการณ์ไม่สงบในประเทศ หลายฝ่ายประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่คณะรัฐประหารไนเจอร์อาจจะพึ่งพากองกำลังแวกเนอร์ เนื่องจากหลังเกิดเหตุรัฐประหารยึดอำนาจจากโมฮัมเหม็ด บาซูม ประธานาธิบดีไนเจอร์

เยฟเกนี ปริโกชิน ได้ออกมาแสดงความยินดีและระบุว่ากลุ่มนักรบรับจ้างแวกเนอร์อาจช่วยควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในไนเจอร์ได้ บทบาทของกลุ่มแวกเนอร์ในแอฟริกา

คำถามสำคัญคือ ตอนนี้กลุ่มแวกเนอร์อยู่ที่ใดในแอฟริกาบ้าง? ข้อมูลล่าสุดจากสถาบันอิตาเลียนเพื่อการศึกษาการเมืองระหว่างประเทศเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่า ตอนนี้กลุ่มแวกเนอร์ได้กระจายกองกำลังอยู่ในหลายประเทศของทวีปแอฟริกาจากแผนที่จะเห็นได้ว่าประเทศในแอฟริกาที่มีกลุ่มแวกเนอร์ล้วนเป็นพื้นที่รอบบ้านไนเจอร์ เช่น มาลี บูร์กินาฟาโซ ลิเบีย

รวมถึงประเทศร่วมภูมิภาค อย่าง ซูดาน เอริเทรีย สาธารณรัฐแอฟริกากลาง คองโก บุรุนดี อิเควทอเรียลกินี ซิมบับเว

กลุ่มแวกเนอร์ที่อยู่ในแอฟริกาเหล่านี้ทำภารกิจที่แตกต่างกันออกไป เช่น ฝึกกองทัพ ให้คำปรึกษาแก่รัฐบาล หรือดูแลด้านเศรษฐกิจที่เป็นผลประโยชน์ของรัฐบาลรัสเซีย เช่น อุตสาหกรรมเหมืองเป็นต้น

ส่วนสาเหตุที่ทำให้คณะรัฐประหารของไนเจอร์ต้องพึ่งพากลุ่มนักรบรับจ้างแวกเนอร์นั้น เป็นเพราะไนเจอร์อาจต้องต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธจีฮัดเพียงลำพังหลังจากทำรัฐประหารและเกิดความไม่ลงรอยกับชาติตะวันตก ที่ในด้านหนึ่งก็ทำหน้าที่ต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธจีฮัดให้ไนเจอร์ นี่จึงเป็นสาเหตุที่หลายฝ่ายกังวลว่า หลังจากนี้คณะรัฐประหารไนเจอร์ อาจตามรอยมาลีและบูร์กินาฟาโซ ไปจับมือกับกลุ่มแวกเนอร์เพื่อต่อต้านกลุ่มจีฮัดในภูมิภาค

ตอนนี้สัญญาณความร่วมมือระหว่างมาลี บูร์กินาฟาโซ และไนเจอร์เริ่มชัดเจนขึ้น หลังการพบกันเมื่อวานนี้รวมถึงเมื่อวันอังคารที่ 1 สิงหาคม มาลีและบูร์กินาฟาโซ ได้ออกโรงแถลงปกป้องคณะรัฐประหารไนเจอร์จากการแทรกแซงของกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจแห่งชาติแอฟริกาตะวันตก หรือ ECOWAS ที่ยื่นคำขาดว่าจะใช้ทุกมาตรการ รวมถึงการใช้กำลังเพื่อคืนอำนาจให้ประธานาธิบดีบาซูม

ล่าสุด บรรดาผู้นำของกลุ่ม ECOWAS ได้จัดประชุมที่กรุงอาบูจา ประเทศไนจีเรีย เพื่อติดตามความคืบหน้าและหารือถึงทางออกในการฟื้นฟูประชาธิปไตยในประเทศไนเจอร์ หลังจากเสร็จสิ้นการหารือร่วมกัน คริสโตเฟอร์ กวาบิน มูซา ผู้บัญชาการกองกำลังความมั่นคงไนจีเรียได้แถลงว่า การฟื้นฟูประชาธิปไตยในประเทศไนเจอร์เต็มไปด้วยอุปสรรค แต่ชาติแอฟริกาจะไม่ยอมแพ้ เพราะความไร้เสถียรภาพทางการเมืองในไนเจอร์คุกคามการพัฒนาภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก

ขณะเดียวกันวันนี้ สำนักข่าวการ์เดียน ไนจีเรีย รายงานว่าหลายเมืองใหญ่ของไนเจอร์ตกอยู่ในความมืดมิด เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าจากไนจีเรียไม่ส่งกระแสไฟฟ้าให้ตามมาตรการคว่ำบาตรของกลุ่ม ECOWAS ซึ่งตามปกติแล้วบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าสัญชาติไนจีเรียจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ไนเจอร์มากถึงร้อย 70 ของไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้ในประเทศ นอกจากการตัดไฟฟ้าแล้ว กลุ่ม ECOWAS ยังได้คว่ำบาตรไนเจอร์ด้วยการปิดพรมแดนทางบกและทางอากาศระหว่างประเทศกลุ่ม ECOWAS จัดตั้งเขตห้ามบินสำหรับเที่ยวบินพาณิชย์ทั้งหมดที่เดินทางเข้าและออกจากไนเจอร์

ตลอดจนระงับการทำธุรกรรมพาณิชย์และการเงินระหว่างชาติสมาชิกกับไนเจอร์ทุกประเภท รวมถึงความช่วยเหลือทางการเงินและธุรกรรมต่างๆ ที่ต้องพึ่งพาธนาคารของประเทศกลุ่ม ECOWAS ตอนนี้การบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรของ ECOWAS กำลังส่งผลกระทบต่อประชาชนในประเทศไนเจอร์ โดยเฉพาะกลุ่มคนขับรถบรรทุกที่ไม่สามารถขนส่งสินค้าไปยังประเทศต่างๆ ได้ตามประกาศมาตรการคว่ำบาตร กลุ่มคนขับรถบรรทุกระบุว่าเดือดร้อนมาก พร้อมขอให้ประเทศที่คว่ำบาตรช่วยผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรเพื่อให้สามารถขับรถขนส่งยังชีพได้

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่าชาวไนเจอร์จำนวนไม่น้อยได้ออกมารวมตัวเพื่อประท้วงมาตรการคว่ำบาตรของ ECOWAS ในพื้นที่กรุงนีอาเม เมืองหลวงของประเทศ ประชาชนที่มาประท้วงให้เหตุผลว่ามาตรการคว่ำบาตรของ ECOWAS ล้าสมัย ไร้มนุษยธรรมกับไนเจอร์ที่กำลังอยู่ในห้วงเวลาของการปลดแอกตนเองจากยุคอาณานิคม

ขณะเดียวกันพลเอกอับดูราฮามาเน ทีเชียนี ประธานสภาแห่งชาติเพื่อการพิทักษ์มาตุภูมิ หรือหัวหน้าคณะรัฐประหารของไนเจอร์ ได้แถลงเมื่อวานนี้ โดยระบุว่าคณะรัฐประหารจะไม่ลงจากอำนาจ แม้ต้องเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรที่

“ไร้มนุษยธรรม” พลเอกทีเชียนีกล่าวเสริมว่า เป้าหมายในการคว่ำบาตรเช่นนี้เป็นไปเพื่อต้องการให้คณะรัฐประหารเสียหน้า และต้องการกดขี่ให้ชาวไนเจอร์ใช้ชีวิตอยู่กับความยากจนต่อไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน หัวหน้าคณะรัฐประหารไนเจอร์ก็ได้ประกาศต่อต้านมาตรการคว่ำบาตรจากทุกชาติ รวมถึงความพยายามแทรกแซงกิจการภายในด้วย

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พลเอกทีเชียนีได้ออกแถลงว่าพร้อมฟังความเห็นจากทุกฝ่ายและจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อพาประเทศกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด

แม้จะมีการออกมาประกาศเรื่องการเลือกตั้ง แต่ด้วยสถานการณ์ในประเทศไนเจอร์ที่เริ่มเลวร้ายลงเรื่อยๆ และอาจทวีความรุนแรงขึ้นในวันอาทิตย์นี้ หากกลุ่ม ECOWAS ตัดสินใจใช้มาตรการทางการทหารเพื่อฟื้นฟูประชาธิปไตยของไนเจอร์ตามที่เคยยื่นคำขาดไว้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลของชาติตะวันตกเริ่มอพยพพลเมืองของตนเองที่อยู่ในประเทศไนเจอร์ออกนอกพื้นที่ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย

ชาวฝรั่งเศสหลายร้อยคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไนเจอร์ ได้เดินทางมาลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ทางการทหารของรัฐบาลฝรั่งเศสที่สนามบินในกรุงนีอาเม เพื่อเตรียมอพยพกลับประเทศต้นทาง

หลังจากลงทะเบียนเสร็จ ก็ได้นั่งรอเพื่อเตรียมขึ้นเครื่องบิน A-330 ที่ทางการฝรั่งเศสจัดเตรียมไว้โดยเครื่องบินลำแรกได้อพยพผู้คนเดินทางออกจากแผ่นดินไนเจอร์ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม

ด้านประชาชนอีกกลุ่มที่อพยพออกจากไนเจอร์มากับเครื่องบินฝรั่งเศสเมื่อวานนี้ ได้เดินทางถึงประเทศฝรั่งเศสแล้วเช่นกัน พวกเขาบอกกับผู้สื่อข่าวว่า แม้จะโล่งใจที่ออกมาจากไนเจอร์ได้ แต่ก็เป็นห่วงเพื่อนร่วมงานที่ยังอยู่ที่ไนเจอร์

นอกจากฝรั่งเศส อีกประเทศหนึ่งที่สั่งอพยพคนของตนเองออกนอกประเทศไนเจอร์ คือ อิตาลี โดยทางการได้ส่งเครื่องบินไปรับประชาชนสัญชาติอิตาลีและสัญชาติอื่นๆ อีกกว่า 100 ชีวิต ก่อนที่จะเดินทางถึงกรุงโรมโดยสวัสดิภาพเมื่อวานนี้

ท่ามกลางคำสั่งย้ายและอพยพประชาชนของหลายประเทศ เมื่อวานนี้สหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงท่าทีเรื่องการประจำการบุคลากรในประเทศไนเจอร์เช่นเดียวกัน แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกประจำกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกมาแถลงว่า สถานทูตของสหรัฐฯ ประจำไนเจอร์ในกรุงนีอาเม จะยังเปิดให้บริการตามปกติ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศ และสะท้อนคำมั่นสัญญาที่สหรัฐฯ มีต่อประชาชนไนเจอร์ อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ จะติดตามสถานกาารณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด และจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในชีวิตประชาชนอเมริกันเป็นอันดับแรกคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง